backpack นั่งรถไฟไปทัวร์กาญ

นี้เป็นกระทู้แรกในนี้ของผมเลยครับ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยกันในที่นี้ด้วย เริ่มเลยนะกันเลยครับ เริ่มเรื่องในตอนแรกนั้น ผมได้ลองอ่านกระทู้ในนี้ดูที่เกี่ยวกับการ backpack ไปในที่ต่างๆในเมืองไทย พอเห็นเข้าผมก็เลยเกิดแรงบันดาลใจในการที่จะได้ไปเที่ยวแบบนั้นบ้าง ผมก็ได้ไปเจอกระทู้นีงในนี้ที่ได้ backpack ไปเที่ยวเกาะเต่า นั้นก็ซี่งเป็นเด็กอายุประมาณเท่าๆกับผมเลย ผมก็เลยอยากจะได้ลองออกไปเจอกับสถานที่ใหม่ๆดูบ้าง ต่อจากนั้นผมก็ได้ลองหาข้อมูลในการท่องเที่ยวมาดู จนได้มาเจอ "น้ำตกเอรวัณ" ผมเห็นว่ามันเป็นที่นึงที่เราควรจะไปให้ได้ก่อนที่จะต้องเปิดเทอม ผมเลยหาข้อมูลดูแล้วก็ได้ปรึกษากับเพื่อนๆดู สรุปมีเพื่อนร่วมทริปไปก็เราอีก 4 คน รวมผมก็ 5 คน นั้นแหละครับคือจุดเริ่มต้นในการเดินทางของผมกับเพื่อนๆ โดยทริปนี้หลักๆก็จะไปที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอรวัณ กันครับ แต่พวกเราอยากไปดู สะพานข้ามแม่น้ำแคว กับ เส้นทางรถไฟสายมรณะ แล้วก็ไปดู สุสานสัมพันธมิตรดอนรัก กัน เริ่มเลยละกันนะครับ ทริปนี้ผมได้ตัดสินใจนั่งรถไฟไปกัน โดยไปขี้นที่สถานีรถไฟธนบุรี บางกอกน้อย ที่อยู่แถวๆโรงบาลศิริราช ลืมบอกไปเลยครับ พวกเราไปกันวันที่15-16 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้เอง ต่อกันเลยครับ หลังจากที่เราได้เดินทางไปถึงสถานีเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเอาบัตรประชาชนไปเพื่อขอตั่วรถไฟฟรีครับ  ก็ตามตารางรถไฟได้บอกว่าออก 7.50 น.แต่เอาเข้าจิงๆก็ออกเลทเหมือนเดินอะครับ5555 กว่าจะออกได้ก็ประมาณแปดโมงกว่าๆเห็นจะได้ครับ รถไฟก็ได้เริ่มเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ผ่านสถานีต่างๆไป เวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆก็มาถึงสถานีกาญจนบุรีแล้ว ต่ดจากนั้นรถไฟก็ได้เดินทางไปต่อที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็เหมือนๆกับสะพานทั่วๆไปอะครับ5555 มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย คนต่างชาติต่างก็มาถ่ายรูปกันเต็มไปหมด มีทั้งคนที่อยู่บนสะพานที่กำลังรอให้รถไฟให้ผ่านไป และก็ได้มีลุงแก่ๆคนนึงกับเด็กกลุ่มหนึ่งยืนเล่นกีตาร์ ร้องเพลงกันที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว และแล้วก็ได้ถึง เส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่เค้าได้เล่าลือกันมานาน มันก็เป็นคล้ายๆกับทางรถไฟที่ด้านหนึ่งก็เป็นหน้าผา อีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นแม่น้ำแควแล้วก็มีพวกแพคล้ายๆกับที่พัก เวลาประมาณบ่ายโมงกว่าก็ถึงสถานีรถไฟ น้ำตก พวกเราก็ลงไปขอตั่วรถไฟ เพื่อจะนั่งรถไฟไปสถานีกาญจนบุรีกัน เวลาก็ค่อยๆผ่านเลยไป ลืมบอกไปครับ รถที่จะไปน้ำตกเอรวัณ รอบสุดท้ายเวลา 4 โมงเย็น แต่ตอนนั้น2โมงกว่าๆเพิ่งจะมาถึงเส้นทางรถไฟสายมรณะเอง มีอย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้ก็คือได้แต่ภวานาให้รถไฟไปทัน55555 สามโมงกว่าๆเกือบจะสี่โมงพวกเราก็มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว แต่ก็ตามเสต็ปรถไฟก็ต้องชะลอให้ดูสะพานข้ามแม่น้ำแควอย่างช้าๆ แต่ก็ได้มาถึงสถานีกาญได้ ตอนนั้นเวลาประมาณสี่โมงนิดๆได้ พอลงจากรถไฟเสร็จ พวกเราก็รีบวิ่งไป ข้างนอกแล้วพวกเราก็ได้เจอกับรถกระป๋องคันสีส้ม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เค้าก็ถามว่าจะไปไหน ตอนนั้นเราเห็นว่าไม่น่าจะทันรถที่จะไปน้ำตกเอรวัณรอบสุดท้ายก็น่าจะออกไปแล้ว เราถามเค้าว่า "ไปน้ำตกเอรวัณไปยังไงครับ" เค้าถามกลับมาว่า "มากันกี่คนหละ" เราก็บอกเค้าไป "5 คนอะครับ" เค้าเลยบอกว่า งั้นพี่ขอ 800 ละกัน พอพวกเราได้ฟังราคาก็ถึงกับตกใจ แพงมากๆๆๆ เค้าก็บอกว่าถ้าจะไปน้ำตกให้ไปนั่งรถที่ขนส่ง เค้าบอกว่าคนละ20บาท พวกเราก็ตกลงว่าจะไป พอนั่งรถออกไปซักพักก็ได้เห็นรถที่จะไปน้ำตกเอรวัณรอบสุดท้ายพอดี พี่คนขับรถเค้าถามว่าจะไปกันมั้ย ก็แน่นอนหละครับต้องไปแน่555555เค้าก็ขับรถไปส่งที่รถที่จะไปน้ำตก พอขี้นไปก็มีคนมาเก็บค่ารถคนละ50บาท แล้วก็นั่งรถเข้าไปเรื่อยๆ อากาศที่นั้นดีมากๆรถก็ไม่ค่อยมี อากาศก็เริ่มเย็นลงตอนนั้นก็เป็นเวลา4โมงกว่าๆเกือบจะ5โมงแล้ว พระอาทิตย์ที่กำลังใกล้จะตก อยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆ ทำให้สีก้อนเมฆนั้นเปลี่ยนเป็นสีส้มๆออกชมพู มันเป็นภาพที่สวยมากที่ในกรุงเทพนั้นไม่ได้มีโอกาศได้เห็นหรือได้ที่จะสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้เลย นั่งรถเข้าไปเรื่อยคนในรถก็เริ่มน้อยลง และแล้วก็ได้มาถึง อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอรวัณ กันตอนนั้นก็เกือบจะ6โมงหละ เพื่อนผมก็ได้เข้าไปทำเรื่องเข้าที่พัก ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สำหรับคนที่จะกางเต็นท์ก็ติดต่อที่นี้ได้ครับ พอทำเรื่องเสร็จแล้วพวกเราก็เข้าบ้านพักกันแล้วก็เก็บของ แล้วก็ออกมาหาไรกินกัน มันจะเป็นร้านขายอาหารต่างๆ มีทั้ง อาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง แต่ตอนพวกเราไปก็เย็นมากแล้ว ร้านค้าแถวนั้นเลยปิดกันหมด พวกเราเลยเข้าไปกินร้านที่ 5 กัน บรรยากาศดีมากเป็นร้านไทยๆดี เปิดเพลงชิวๆตอนกินข้าว ราคาอาหารก็ขึ้นอยู่ว่าจะสั่งอะไร ถ้าเป็นพวกอาหารตามสั่งส่วนมากก็40-50 ถ้าอย่างอื่นผมก็ไม่แน่ใจ เหมือนกัน55555 ส่วนเรื่องรสชาติก็อร่อยในระดับหนึ่ง ก็พอกินได้อะครับ เสียดายลืมถ่ายรูปร้านค้ามาให้ดู พอพวกเรากินอะไรเสร็จแล้วก็กลับเข้าที่พัก จบไปแล้วนะครับกับวันแรกของพวกเรา55555 ผมอาจจะเขียนผิดๆถูกบ้าง อาจจะไม่สนุกเท่าไร ต้องขออภัยด้วยจิงๆครับ วันแรกส่วนใหญ่จะหมดไปกับการนั่งรถไฟซะส่วนใหญ่ แต่ก็ถือว่าคุ้มกับเวลาที่เสียไปครับ มันเป็นภาพที่ดีมากเลยย ถ้าใครยังไม่เคยนั่งรถไฟไทย ผมแนะนำเลยครับ55555 เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเขียนต่อครับ ชื่อสินค้า:   . คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว