วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยว มาเลเซีย – สิงคโปร์ 10 คืน 11 วัน Part 2 : สิงคโปร์

ต่อจากกระทู้เก่านะครับต้องขอเปิดใหม่เพราะของเก่าตกไปไกลแล้วครับ ข้อมูลสำหรับมาเลเซียhttp://pantip.com/topic/32587659สิงคโปร์ การเดินทางมายังสิงคโปร์ของผมนั้นใช้การนั่งรถบัสจากมะละกาข้ามฝั่งมาครับใช้เวลาราวๆ 4 ชม ค่าตั๋วประมาณประมาณ 200 กว่าบาทแต่ที่นั่งเล็กนะครับจะมีรถอีกแบบที่ ที่นั่งกว้างกว่าราคาประมาณ 400 กว่าบาท สำหรับการผ่าน ตม ที่นี่จะมี 2 จุด จุดแรกคืออกจากมาเลเซียอันนี้สบายๆครับ รถบัสจะจอดให้เราลง จำรถให้ดีนะครับเพราะเราต้องเดินกลับไปขึ้นรถคันเดิมอีกทีหลังจากข้ามฝั่งมาก็จะถึง ตม ขาเข้าของฝั่งสิงคโปร์ซึ่งรอบนี้ถ้าจำไม่ผิดจะต้องเอากระเป๋าลงมาด้วยครับ ทำเอกสารเหมือนปกติแล้วก็กลับมาขึ้นรถคันเดิมครับแล้วรถบัสจะพาเรามาส่งที่ท่ารถ หลังจากนั้นรถบัสจะมาส่งเราที่ท่ารถย่านเกลังจากท่ารถเราสามารถเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินได้ ครั้งแรกสำหรับการขึ้นรถไฟฟ้าที่นี่ ไม่งงครับ ง่ายกว่าที่ญี่ปุ่นเยอะเลย (แหงล่ะ) เพราะจะมีสายการวิ่งอยู่ประมาณ 4-5 สี แต่ละสีจะมีจุดตัดของมันระบุไว้ชัดเจน ซึ่งซื้อตั๋วแค่ครั้งเดียวแล้วนั่งยาวๆได้เลยครับ สำหรับที่พัก ที่นี่ผมพักทั้งหมด 4 คืน ผมพัก 2 โฮสเทลครับอยากลองหลายๆบรรยากาศ 2 คืนแรกพักที่ Chinatown ที่พักชื่อ Pillow & Toast Heritage ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินปุ๊ปเดินอีกไม่ถึง 200 เมตร สะดวกมากที่พักดี ราคาย่อมเยา พนักงานน่ารักมากกกกก (นิสัยนะฮะ) ช่วยเหลือดี คุยสนุก ราคาก็ไม่แพงครับ ค่าที่พักตกประมาณ 700 กว่าบาทต่อคืน สำหรับเรื่องความสะอาดที่นี่ผ่านนะครับทั้งห้องน้ำและที่นอน อาหารการกินแถวนี้ก็ราคาย่อมเยากว่าในเมืองพอสมควรแต่ก็ยังคงรักษามาตรฐานสิงคโปร์ไว้ได้ดี (คือก็ยังคงแพงอยู่ดี 555) เนื่องจากอยู่ใกล้ ไชน่าทาวน์ ผมก็ได้ฝากท้องไว้ที่ไชน่าทาวน์หลายมื้ออยู่เหมือนกัน ถึงจะแพงแต่ก็จานใหญ่อยู่นะครับเทียบกับแขนผมดู อีก 2 คืนผมพักอยู่แถว Clarke Quay ใกล้แหล่งท่องราตรีที่ 5footway.inn project boat quay ที่นี่ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย อยู่ที่คืนละ 900 กว่าบาท แต่ขอบอกว่าโคตรคุ้มค่าครับสำหรับที่นี่ เพราะที่นี่จะมีระเบียงสำหรับนั่งตากลมให้เราสามารถมานั่งกินดื่ม บรรยากาศริมน้ำนั่งมองยานอวกาศจากระยะไกลๆได้ครับ ใช่ครับมันเห็นยานอวกาศจริงๆนะครับ สำหรับละแวกนี้ค่าครองชีพจะสูงกว่าพอสมควรผมจึงต้องฝากท้องไว้กับ 7-11 ครับ การท่องเที่ยวในสิงคโปร์นั้นแนะนำให้มาที่ Chinatown ก่อนเลยครับและไปที่ People park center ตึกใหญ่มากป้ายชัดเจนหาไม่ยากครับหรือจะถามคนแถวนั้นก็ได้จากนั้นไปที่ชั้น 3 ครับจะมีร้านขายตั๋วในตำนาน ชื่อ sea wheel สังเกตว่าจะมีคนเยอะๆครับ เพราะร้านอื่นแถวนั้นเงียบกันหมด 555 ร้านนี้มีตั๋วแทบทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวพึงจะมี สำหรับการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ตั้งแต่บัตร universal ยันตั๋วนั่งเรือเที่ยวรอบเมือง เป็นต้น ซึ่งตั๋วทุกอย่างที่นี่ถูกกว่าข้างนอกทั้งหมด และถูกกว่าเยอะมากกกกกกก เพราะฉะนั้นก่อนจะไปเผลอเสียเงินราคาเต็มแบบผม แนะนำให้มาที่นี่ก่อนจะดีกว่าครับ T_T สามารถวางแผนท่องเที่ยวจากที่นี่ได้ทั้งหมดเลย การเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ถ้าเอาแบบแน่นอนที่สุดก็คงจะเป็นรถไฟฟ้าครับแต่ราคาก็แอบแรงอยู่เหมือนกัน ถ้าเทียบกับมาเลเซียที่เพิ่งจากมา (อาจจะเป็นเพราะตั๋วที่มาเลเซียถูกเกินไปก็เป็นได้ 555) หากไม่ใช้รถไฟฟ้าก็ใช้รถเมล์ได้เหมือนกันครับครอบคลุมแทบจะทุกพื้นที่เหมือนกันแต่ผมเป็นประเภท ไม่ถูกจริตกับรถเมล์สักเท่าไหร่เลยไม่ได้ใช้ครับ การเดินทางที่ผมใช้เยอะที่สุดที่นี่ก็คงจะเป็น เท้าของผมนี่ล่ะครับเดินมันไปเรื่อยๆทั้งวัน 555 ไม่แนะนำสำหรับคนที่แพ้แสงอาทิตย์นะครับวิธีนี้ ร้อนมากกกก ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่สิงคโปร์Merlion !! แน่นอนครับมาถึงนี่ถ้าไม่มาสร้างแลนด์มาร์คที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนะครับ การเดินทางมาไม่ยากครับ รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Raffle Place แต่ถ้าจะชิลแล้วมีเวลาแนะนำให้ลงที่ Clarke Quay แล้วเดินเรียบแม่น้ำมาเรื่อยๆนะครับ ชมวิว แล้วก็จะเจอกับ Merlion เองโดยอัตโนมัติยานอวกาศ !! Marina Bay Sand อยู่ตรงข้ามกับ Merlion เลยครับจะเดินริมน้ำไปเรื่อยๆก็ได้ครับ ออกกำลังกาย หรือจะนั่งเรือก็ได้นะครับ เรือสามารถนั่งทัวร์ได้ด้วย (ถ่ายจากบนเรือครับ) ที่นี่เป็นห้างรวบรวมของแพงๆไว้มากมายแบรนเนมทั้งหลาย และก็ร้านชิวๆแบบไฮโซๆ แนะนำว่ามาถึงแล้วก็มาเดินเอาบรรยากาศหน่อยก็ดีครับ ในตอนกลางคืนด้านหน้าจะมีการแสดงแสงสีเสียงอลังการมากครับ ไม่แน่ใจว่าทุกคืนไหม แต่ผมไปดูมันตรงกับวันเสาร์พอดีครับ การแสดงมี 2 รอบครับ รู้สึกจะไม่เหมือนกันด้วย ฟรีครับ แว้บแรกคิดว่าออโรร่า 555 (ปีหน้า เดือน มีค ผมจะไปล่าแสงเหนือรอติดตามด้วยนะครับ) หน้าตาแบบนี้ไม่เรียกยานอวกาศจะให้เรียกอะไรครับ Art Science Museum ที่อยู่ข้างๆเอาไว้ถ่ายรูปนะครับ แต่ถ้าใครเงินถึงจะเข้าไปชมนิทรรศการข้างในก็จัดเลย The Helix สะพานหน้าตาสวยงาม ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง เอาไว้ถ่ายรูปเล่นนะครับGarden by the bay พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับสำหรับที่นี่ โดยเฉพาะตอนกลางคืนแทบจะเรียกได้ว่า หลุดออกไปอยู่อีกโลกนึงกันเลยทีเดียวครับ ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวคือนี่ Super Tree ต้นไม้ปลอมๆที่เจ๋งมากๆ ด้านบนมี skywalk ให้เดินชมวิว กับมีร้านอาหารด้านบนนะครับ ค่าขึ้นไปเดิน skywalk นั้นไม่แพงแต่ผมแพ้ความสูงเลยไม่ได้ขึ้นไปเพราะทางเดินมันดูโล่งเกิ๊น 555 สำหรับร้านอาหารนี่ก็อยากขึ้นไปครับแต่แพงก็เลยอดอีก 555 แต่แค่อยู่ข้างล่างก็เยี่ยมมากๆแล้วล่ะครับ นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Cloud Forestและ Flower Dome ตั้งอยู่สำหรับใครที่สนใจ ซื้อบัตรจาก People park center มาเลยนะครับถูกกว่ามากสำหรับผม Flower dome ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนักครับถ้าชอบดอกไม้ของสวยของงามก็จัดเลยครับ แต่ Cloud Forest นี่เยี่ยมมากเลยมีน้ำตก ต้นไม้เห็ด รา มอส มากมายอันนี้ชอบเป็นการส่วนตัวครับ 555Singapore flyer หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตครับ แต่ก็ว่ากันตามตรงผมไม่ได้ขึ้นครับเลย no comment หะหะSentosa อีกหนึ่ง It is a must ของประเทศนี้ครับการเดินทางมาไม่ยากนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Harbour Front และเดินเข้ามาในห้างชื่อ VIVO CITY ภายในห้างจะมีรถไฟฟ้าเข้าไปด้านในค่าตั๋วประมาณ 4 เหรียญ แต่ช้าก่อน !! ถ้าท่านต้องการลดรายจ่าย พร้อมกับสุขภาพที่ดี เราสามารถเดินข้ามฝั่งไปได้ครับเสียค่าเข้าเพียงแค่ 1 เหรียญเท่านั้น !! ภายใน Sentosa นี่ก็จะมีสิ่งในน่าสนใจอยู่หลายสิ่งและแน่นอนว่าเบอร์ 1 เลยก็คือ...Universal Studio และแน่นอนว่า ผมไม่ได้เข้าครับ = =” จึง no comment ก็แหม่ ไปคนเดียวจะมาเที่ยวอะไรแบบนี้มันก็ไม่ใช่อะนะคับ อย่าลืมซื้อตั๋วถูกจาก People park centerS.E.A. Aquarium สำหรับผู้ที่ชื่นชอบตู้ปลาขนาดมโหฬาร ไม่ควรพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวงครับ ผมเป็นคนชอบตูปลามากจึงอินกับ aquarium เป็นพิเศษ ซึ่งที่นี่มันยอดเยี่ยมมากจริงๆครับ โดยเฉพาะตู้ใหญ่สุดของที่นี่เหมือนเป็นโรงหนังเลยครับให้เรานั่งดูได้แบบไม่มีเบื่อ พร้อมดนตรีประกอบสุดชิล ไม่ควรพลาดครับSentosa Beach ว่ากันตามตรงก็สู้ทะเลบ้านเราไม่ได้หรอกครับ แต่ก็มาถึงแล้วก็ต้องจัดเสียหน่อย เพราะคงไม่บ่อยที่เราจะนั่งอยู่ริมชายหาดแล้วได้เห็นเรือสินค้ามากมายจอดลอยอยู่ใกล้ๆ!! จะมาจอดทำไมแถวนี้ = =” นอกจากนี้ภายใน Sentosa นั้นยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายจุดอย่างเช่น Merlion ตัวปลอมที่ให้เราขึ้นไปโผล่ที่ปากได้ สวนผีเสื้อ และอื่นๆอีกมาก ที่ผมไม่ได้เข้าไป ปล.ภายในนี้รถไฟฟ้าขึ้นฟรีนะครับรวมถึงรถที่หน้าตาเหมือนรถวิ่งในมหาลัยก็ฟรีครับBuddha Tooth Relic Temple เป็นวัดพุทธที่โด่งดังมากของที่นี่ผู้คนนิยมมาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตถ้ามีเวลาแวะมาได้ครับอยู่ติดกับ Chinatown และไฮไลท์สุดท้ายของผมสำหรับทริปนี้ก็คือ... Walking Trails ที่ทางสิงคโปร์จัดเตรียมไว้ให้ สามารถเลือกเส้นทางได้จาก link นี้ครับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.nparks.gov.sg/cms/index.php?option=com_content&view=article&id=20&Itemid=135 ซึ่งจะมีเส้นทางเดินสำรวจเกาะแห่งนี้ โดยจะมีเวลาบอกว่า แต่ละเส้นทางใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ เหมาะกับคนกลุ่มไหนด้วยนะครับ แต่อยากจะบอกว่าเวลาที่บอกในเว็บนี่มันน่าจะสำหรับเดินอย่างเดียว ไม่หยุด ไม่พัก ไม่เม้ามอย ไม่เหนื่อย ใดๆทั้งสิ้น เพราะที่ผมเดินก็เลยเวลาที่เขาบอกไว้เป็นชั่วโมงกันเลยทีเดียว เส้นทางที่ผมเดิน คือ Labrador Nature & Coastal Walk ซึ่งก็ได้ชมวิวสวยๆงามๆมากมาย Forest walk สุดสยิวครับเดินผ่านป่าเขาด้วยทางเดินสูงๆ Handerson Wave สะพานไม้เก๋ไก๋สไลเดอร์ของที่นี่ครับ บันไดน่ารักๆระหว่างทาง ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายที่แต่ด้วยเวลาจำกัดทำให้ต้องหาโอกาสมาแก้มือใหม่รอบหน้าครับ ถ้าใครต้องการข้อมูลสอบถามมาได้เลยนะครับจะพยายามตอบให้ได้ทั้งหมดครับบทสรุปของการเดินทางคนเดียว อยากจะบอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมันก็ไม่ได้น่ากลัว หรือเหงาหงอยอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ ตลอดทั้งทริปนี้ผมได้เพื่อนใหม่มากมายตลอดทั้งการเดินทางเลย ตั้งแต่ปีนังก็ได้เพื่อนร่วมทางชาว Ireland คนนี้แหละที่สอนให้ใช้ foursquare ในการหาของกิน ที่เที่ยว แล้วยังเดินทางมา Cameron ด้วยกันและแยกกันที่นี่ ได้เพื่อนชาว Canada UK จากที่นี่ เพื่อนที่ Canada นี่ก็เที่ยวด้วยกันยันมะละกา แล้วไปบังเอิญเจอกันอีกทีที่ Sentosa โลกมันช่างแคบเหลือเกิน 555 และก็ได้เจอน้องคนไทยจากที่โฮสเทลที่สิงคโปร์ด้วยครับ น้องคนนี้แหละที่แนะนำให้ผมรู้จักที่ซื้อตั๋วราคาถูก (เสียดายมากที่เจอกันช้าไปหน่อยเพราะผมโดนตั๋วแพงไปหลายใบแล้ว = =”) ที่จริงก็ยังมีเพื่อนๆเฮฮาปาร์ตี้อีกมากมายตามโฮสเทลต่างๆที่ได้เจอะเจอ เพราะฉะนั้นผมกล้านั่งยัน ยืนยัน นอนยัน ครับ ว่าการเดินทางคนเดียวไม่เหงาแน่นอนครับ กลับกันเราจะได้เพื่อนใหม่มากมาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาติพันธุ์อื่นๆอีกด้วย ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะต้องเดินทางคนเดียวครับ แล้วคุณจะได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆแบบที่ผมได้เจอครับ สุดท้ายผมขออนุญาตฝากเพจการเดินทางของผมด้วยนะครับ เพจนี้จะแชร์ทั้งเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยว และการเดินทางในชีวิตเพื่อไปสู่จุดหมายในชีวิตของผมครับ ขอบคุณครับhttps://www.facebook.com/duckchronicle ปล.ต้นปีหน้าผมจะไปล่าแสงเหนือที่ Iceland รอติดตามชมกันด้วยนะครับ ถึงจะอีกนานก็เถอะ 555 ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น